สงเคราะห์โลงศพฟรี สงเคราะห์เผาศพฟรี สงเคราะห์ลอยอังคารฟรี แก่ผู้ยากไร้ไร้ญาติ


ทรงตำหนิพวกอุบาสกเรื่องอุโบสถศีล

สมัยนั้น พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ นิโครธาราม ใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ ในสักกชนบท ในครั้งนั้นพวกอุบาสกชาวสักกชนบทเป็นอันมากได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับในวันอุโบสถ

พระพุทธเจ้าได้ตรัสถามว่า “อุบาสกชาวสักกชนบททั้งหลาย ! พวกท่านยังรักอุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ อยู่แลหรือ ?”

พวกอุบาสกเหล่านั้นกราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บางคราวพวกข้าพระองค์ก็รักษาอุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ บางคราวก็ไม่ได้รักษาพระพุทธเจ้าข้า”

พระพุทธองค์ทรงติเตียนว่า “อุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ! ไม่เป็นลาภของท่านเสียแล้ว ท่านไม่ได้ดีเสียแล้ว เมื่อชีวิตมีภัยเพราะความโศกและมีภัยเพราะความตายอยู่อย่างนี้ เหตุใดจึงไม่รักษาอุโบสถเล่า ? ท่านจะเห็นอย่างไร ? คนในโลกนี้พึงหาทรัพย์ได้ทุกวัน ด้วยการงานอันชอบโดยไม่แตะต้องอกุศลเลย สมควรจะกล่าวได้หรือไม่ว่าเป็นคนฉลาด สมบูรณ์ด้วยความหมั่น ?”

ในตอนท้ายทรงสอนให้ไม่ประมาท ไม่ให้หลงอยู่ในทรัพย์สินและกามคุณ อันเป็นของไม่เที่ยง เป็นของว่างเปล่า เป็นของหลอกลวง เป็นของมีความฉิบหายไปเป็นธรรมดา อุบาสกเหล่านั้นต่างพากันเห็นแจ้ง และกราบทูลรับว่าจะรักษาอุโบสถตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

สักกสูตร ๒๔/๘๖


ส่วนเสริม

การรักษาอุโบสถศีล เป็นการพัฒนาศีลหรือพัฒนากายและวาจาขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง เป็นการท้าทายทางความดีที่ผู้มีศีล ๕ อยู่เป็นปกติแล้วน่าจะลองชิมดู นับว่าเป็นความละเอียดอ่อนของศีลขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ซึ่งทุกคนจะทำได้ไม่ยากนัก เพราะเราไม่ได้ทำเป็นประจำ เราทำเพียง ๗ วันครั้งเท่านั้น มันจะยากกระไรนักเชียว ?

ผู้เขียนกลับเห็นว่าอุโบสถศีล น่าจะเป็นบทเรียนที่แก้ความเบื่อหรือความเคยชินที่ดีมาก เพราะโดยปกติของชีวิตปุถุชนนั้น เมื่อทำอะไรซ้ำซากจำเจนานๆ มันก็ย่อมจะไม่พ้นความเบื่อหรือความเซงไปได้ การพัฒนาศีลด้วยการเปลี่ยนมารักษาอุโบสถ จึงน่าจะเป็นวิถีทางแก้ความเบื่อหรือเซงได้อย่างดี

แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่เคยรักษาอุโบสถมาก่อนก็ขออย่าได้ตั้ง “กำแพงใจ” ไว้ก่อน ว่าการรักษาอุโบสถเป็นของยาก ต้องอดอาหารมื้อเย็น เป็นการทรมาน จะหิว จะลำบาก จะเกิดโรคกระเพาะ จะเกิดอะไรต่างๆ นานา ถ้าใครยังมีความคิดเห็นเช่นนี้อยู่ ก็ขอให้ขนเอาไปทิ้งทะเลเสียให้หมดเถิด ไม่มีมูลความจริงเลย เป็นเรื่องของการหลอกตัวเองชัดๆ ในปัจจุบันนี้หมอหลายท่าน ก็ไม่กินข้าวเย็น เพราะเห็นว่าไม่มีความจำเป็น กินแล้วก็นอนไม่ได้ ใช้พลังงานอะไรเลย มีแต่จะทำให้อ้วนเพราะส่วนเกิน และเมื่ออ้วนกายแล้ว โรคมันก็จะพลอยอ้วนตามมาด้วย

จิตนี้มีความสำคัญมาก เมื่อจิตมันยอมรับว่า ไม่ต้องกินมื้อเย็นก็ได้ มันก็จะสั่งระบบการย่อยหรือประสาทต่างๆ ให้ไม่ต้องมาคอยย่อยอาหาร เมื่อจิตไม่สั่งน้ำย่อยก็ไม่มาเหมือนเราไม่นึกถึงของที่เปรี้ยวน้ำลายก็ไม่ไหล ฉะนั้น

อย่าว่าแต่จะอดอาหารเพียงวันละมื้อเลย แม้อดทั้งวันก็ยังไม่หิวถ้าใจไม่นึก จงดูคนที่เขานั่งเล่นไพ่เถิด แม้เล่นกันตั้ง ๒,๓ วัน ไม่กินข้าวเขาก็ยังอยู่ได้ เพราะจิตของเขาถูกโลภะเข้าครอบงำ อันเป็นจิตฝ่ายกิเลสเสียด้วยซ้ำ ก็การรักษาอุโบสถเป็นฝ่ายบุญฝ่ายกุศล มีแต่ความปลื้มใจ อิ่มใจ ถ้ายิ่งบำเพ็ญสมาธิ สติ หรือวิปัสสนา ประกอบด้วย ก็ยิ่งจะเกิดความสุขที่ละเอียดอ่อนและประณีตยิ่งขึ้นไปกว่ากินอาหารหลากหลายนัก

สำหรับชาวบ้านผู้ครองเรือน และเป็นชาวพุทธด้วย ถ้าไม่เคยรักษาอุโบสถเลย ก็นับว่าเสียชาติเกิดมาเป็นชาวพุทธกะเขาทั้งที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นอุบาสิกาด้วยก็ควรที่จะให้ความสนใจเป็นพิเศษ พิเศษยังไง ? ก็เพราะอุบาสิกานั้นไม่มีโอกาสจะบวชพระกับเขา กล่าวคือ ไม่มีโอกาสได้ชิมรสของการอดข้าวเย็นกะเขาในชาตินี้ ถ้าไม่บวชชี แต่ท่านจะเป็นนักบวชจำลองกับเขาได้ด้วยการรักษาอุโบสถศีล เพราะนอกจากจะต้องงดอาหารมื้อเย็นแล้ว ยังต้องนอนในศาลาวัด ซึ่งก็มีสภาพไม่ต่างอะไรกับพระหรือชีมากนัก

ดังนั้น รักษาอุโบสถศีลเพียง ๗ วันครั้งนี้ นอกจากท่านจะไม่ถูกพระพุทธเจ้าทรงตำหนิอย่างพวกอุบาสกชาวสักกะแล้ว ท่านยังจะได้ลิ้มชิมรสความแปลกใหม่ที่ท่านจะหาไม่ได้จากการรักษาศีล ๕ อีกด้วย