สงเคราะห์โลงศพฟรี สงเคราะห์เผาศพฟรี สงเคราะห์ลอยอังคารฟรี แก่ผู้ยากไร้ไร้ญาติ


ทางสาย “พระพุทโธ”

การภาวนา “พระพุทโธ” ที่จะเปลี่ยนจากการภาวนา “พุทโธ” ที่เคยทำมานั้น ครูอาจารย์นักปฏิบัติสำคัญๆ ทั้งหลายท่านก็สอนตรงกัน ดังเช่นท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระ ท่านยังใช้อุบายสอนชาวป่าชาวเขาให้รู้จักภาวนาคำ “พุทโธ” โดยให้เขาช่วยหา “พุทโธ” ของท่าน ที่ท่านบอกว่าท่านทำหาย ให้เขาช่วยหา และผลดีก็เกิดแก่ชาวป่าชาวเขาผู้นั้น แสงสว่างเกิดขึ้นธัมมะเกิดขึ้น เขาได้เบิกบานเป็นสุขเพราะหา “พุทโธ” พบ

ภาวนา “พระพุทโธ” ในการปฏิบัติ อาจเปรียบได้กับกำลังเดินอยู่บนทางสายพระพุทโธ ทางสายนี้มีจุดหมายสำคัญมากมายหลายจุดเป็นธัมมะก็เช่นเห็นเกิดดับ เห็นไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เห็นอริยสัจ ๔ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เป็นต้น

ถ้าเดินอยู่บน “ทางสายพระพุทโธ”
คือภาวนา “พระพุทโธ” ไว้ให้ทุกเวลา
ไม่ต้องเจาะจงเฉพาะนั่งสมาธินั่งปฏิบัติเท่านั้น
แต่ให้ถือเป็นกิจวัตร
คือหน้าที่ที่ต้องทำเป็นประจำทุกเวลา

ที่ยังมีลมหายใจเข้าออกอยู่
จะยืนเดินนั่งนอนกินข้าวอาบน้ำ
หรือทำงานด้วยกายมิใช่ด้วยใจ
ใจว่างจากงานอยู่
ภาวนา “พระพุทโธ” ไว้

อย่าทิ้งไปใช้สติใช้ปัญญาพิจารณาสิ่งใดอื่น เปรียบการภาวนา “พระพุทโธ” ก็เพื่อให้เข้าใจความจริงอย่างชัดแจ้งว่า ถ้าเดินอยู่บน “ทางสายพระพุทโธ” ไม่หยุดแวะเวียนไปคิดนั้นคาดนี่ ก็จะถึงจุดหมายอันควรถึงอันปรารถนาถึงแน่นอน “ทางสายพระพุทโธ” จะนำไปถึงหลายต่อหลายจุดดังกล่าวมาแล้ว…

ที่มา: แสงส่องใจ ๓ ตุลาคม ๒๕๔๗
โดย: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก